ฉันจะหยุดเขียนโพสต์เกี่ยวกับฝรั่งเศสสักพักหนึ่งจะได้เขียนเรื่องเกี่ยวกับอย่างอื่นบ้าง
I learnt how to crochet in the late 70's when my mother and all her colleagues at work started the craze of crocheting anything and everything during their lunch hours. We went on holidays with my mother crochet projects. She once made me a hat while on a holiday in Bang Saen. She crocheted non stop in the car all the way there and back.
ฉันเรียนการถักโครเชต์กับแม่ช่วงปลายยุค 70's โครเชต์เป็นกิจกรรมยอดนิยมช่วงพักเที่ยงของแม่และกลุ่มเพื่อนที่ทำงาน ถักหมดทุกอย่าง เวลาเราไปเที่ยววันหยุดแม่จะเอาโปรเจ็กโครเชต์ไปด้วย แม่เคยถักหมวกให้ฉันทั้งใบตอนเราไปเที่ยวบางแสนด้วยกัน แม่ถักๆๆๆไม่หยุดระหว่างทางทั้งไปและกลับ
ฉันเรียนวิธีการถักนิ๊ตติ้งช่วงปลายยุค 80's ตอนนั้นฉันอยู่ในวัยทีน ขึ้นรถไฟหลวงสายใต้เข้าเมืองซิดนีย์ขาไปและขากลับ ใช้เวลาเกือบหนึ่งชั่วโมงในการเดินทางแต่ละเที่ยว บางทีต้องยืนตลอดทางแล้วยังมีน้องสาวตัวเล็กๆร่วมเดินทางไปด้วย มีผู้หญิงหลายคนบนรถไฟที่ถักนิ๊ตติ้ง ปกติจะถักอะไรที่ดูน่าสนใจ ส่วนใหญ่จะเป็นเสื้อเด็กอ่อนลายลูกไม้ วิธีการจับเข็มของเขาดูยาก ฉันพยายามทำตามแต่ก็ทำไม่ได้เหมือน เขาถักเร็วและถักเก่ง ส่วนคนอื่นๆทำอะไรบนรถไฟ? ถ้าไม่จับตาเขม็งบนหน้าหนังสือพิมพ์(โดยทั่วไปจะเป็นซิดนีย์มอร์นิ่งแฮโรลด์) ก็จะอ่านหนังสือ
I taught myself how to knit because I wanted to try knitting so much. Now, whenever the weather gets a bit cooler, I know that it is time to knit or crochet. I also appreciate books and newspapers from watching others around me giving so much time to them.
ฉันเรียนวิธีการถักนิ๊ตติ้งด้วยตัวเองเพราะเมื่อได้เห็นคนอื่นทำก็อยากทำมาก ตอนนี้ถ้าอากาศเริ่มเย็นเมื่อไรก็จะอยากถักนิ้ตติ้งหรือโครเชต์ อีกอย่างหนึ่งที่ชอบคือหนังสือและหนังสือพิมพ์เพราะเคยได้เห็นคนรอบๆตัวให้เวลากับการอ่านมากเหลือเกิน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น